Pigment Regulator B3 Serum รักษาสิว ฝ้า จุดด่างดำ

คุณสมบัติ

คุณสมบัติของ Pigment Regulator B3 Serum ซีรั่มวิตามินสารพัดประโยชน์
เวชสำอางจากธรรมชาติ ของ ดร.ภญ.อัญชลี อิ่นอ้าย

ซีรั่มวิตามินบี3 สารพัดประโยชน์ตัวนี้ มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก แตงกวา และชาเขียว

1. ช่วยรักษาหน้าที่หมองคล้ำหรือแดงจากแสงแดด รอยสิว จุดด่างดำ ฝ้า ทำให้ผิวใสกระจ่างขึ้น
ปัญหา  การใช้ผลิตภัณฑ์หน้าใสที่มีส่วนผสมของกรดอ่อน กรกผลไม้ มะขาม หรือขมิ้น อาจทำให้หน้าเรียบขาวใสอย่างรวดเร็ว แต่หน้าอาจจะไวต่อแสงแดดขึ้น เมื่อโดนแสงแดดผิวหน้าจะหมองคล้ำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม จึงไม่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์เป็นประจำทุกวันได้ หรืออาจใช้ผลิตภัณฑ์ได้ในตอนกลางคืนเท่านั้น

ทางเลือก  ซีรั่มวิตามินB3 เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่ปลอดภัยในการทำให้ผิวหน้าค่อยๆใสขึ้นโดยกลไกทางธรรมชาติ การผลิตเม็ดสีผิวที่ผิดปกติจะลดลงและการเคลื่อนที่ของเม็ดสีผิว ไปยังผิวหน้าชั้นบนจะถูกยับยั้ง สีผิวเรียบเนียนเสมอกัน ผิวหน้าจะไม่ไวต่อแสงแดด จึงสามารถใช้เป็นประจำได้อย่างปลอดภัยทั้ง เช้า-เย็น

2. ช่วยรักษาสิว ลดการอักเสบของสิวเรื้อรัง
ปัญหา  ยารักษาสิวทั่วไป เมื่อใช้ไปนานๆ อาจทำให้ผิวหน้าแห้ง เชื้ออาจดื้อยาได้ต้องเปลี่่ยนยาหรือเพิ่มความเข้มข้นของยาในการรักษา

ทางเลือก  ซีรั่มวิตามินB3 สามารถลดการอักเสบของสิวโดยไม่ทำให้เชื้อเดื้อยาเนื่องจากเป็นวิตามิน ทั้งยังป้องกันการหมักหมมของสิ่งสกปรกในรูขุมขน นอกจากนั้นซีรั่มวิตามินB3 ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จึงอ่อนโยนต่อผิว สามารถใช้ได้ทุกวันอย่างปลอดภัย

3. ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว ลดริ้วรอย ต้านอนุมูลอิสระ
ปัญหา  ผิวแห้งขาดน้ำ ถึงแม้จะใส่ครีมบำรุง รู้สึกถึงความมันบนผิวหน้า แต่ผิวหน้าก็ยังแห้งน้ำอยู่

ทางเลือก  ซีรั่มวิตามินB3 สามารถดูดซึมเข้าสู่ชั้นผิวด้านล่างได้ดีกว่าครีมทั่วไป นอกจากนี้วิตามินB3 มีขนาดเล็กมากสามารถแทรกซึมเข้าผิวได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวชั้นล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิวโดยการเพิ่มปริมาณ free fatty acid และ ceramide ในผิว ทำให้ผิวหนังแข็งแรงขึ้น ช่วยรักษาผิวหน้าที่ถูกแสงแดดและมลพิษทำลายและลดริ้วรอย

กรณีผิวแห้ง
ควรทาซีรั่มวิตามินB3 ก่อนแล้วตามด้วครีมบำรุงผิวตามปกติ ทั้งซีรั่ม และครีมบำรุงผิวจะเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกันในการบำรุงผิว moisturizing effects โดยวิตามินB3 จะออกฤทธิ์ดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังอย่างรวดเร็วและครีมบำรุงผิวจะถุกดูดซึมเข้าผิวดีขึ้น และทำหน้าที่เคลือบผิวไว้

หมายเหตุ
ถ้าครั้งแรกทาแล้วรู้สึกเหมือนมดกัดยิบยิบ/รอยแดง แสดงว่าผิวบอบบางมาก ให้ทาบางๆวันละครั้ง ประมาณ 1-3 วัน อาการดังกล่าวข้างตนหายไปเพราะผิวปรับสภาพเข้ากับซีรั่มวิตามินB3 แล้วค่อยทาเพิ่มเป็นวันละ 2 ครั้ง ตามปกติ

วิธีการใช้ซีรั่มวิตามิน B3
ซีรั่มวิตามิน B3 ใช้เป็นประจำได้ หน้าไม่บางลงและไวแสง ทำให้ชั้นผิวหนาและแข็งแรงขึ้น ภูมิคุ้มกันต่อสิ่งแวดล้อมจะดีขึั้น

1. ถ้าหน้าไม่มีปัญหา ใช้บำรุง ก็ทาได้เช้า-เย็น (กรณีผิวแห้ง อาจตามด้วยครีมบำรุง เพราะ Serum ไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม)
2. ถ้าเป็นสิว ฝ้า ไม่มาก ก็ทาทั่วหน้าได้เช้า-เย็น แล้วแต้มหนาๆ ตรงที่มีปัญหาได้บ่อยๆ
3. ถ้าเป็นสิว ฝ้า มาก อย่าเพิ่งทาทั่วหน้า เอาแต้มตรงที่มีปัญหาก่อน
4. ถ้าทำงานออกแดดบ่อยและผิวบอบบางจากการใช้สารกัดหน้ามานานๆ แนะนำให้ทาทั่วหน้า บางๆ (1-3 หยด) วันละ 1 ครั้ง ตอนกลางคืน 1 อาทิตย์เพื่อปรับสภาพผิว (อย่าทาเยอะในช่วงแรก ของการใช้ค่ะ) แล้วให้เริ่มใช้วันละ 2 ครั้ง ตามปกติ แต้มตรงที่มีปัญหาได้บ่อยๆ (จุดด่างดำ สิว ฝ้า ริ้วรอย ร่องแก้ม รอยตีนกา) ได้

กรณีฝ้ามาก : คนที่เป็นฝ้ามากเอาซีรั่มทาทั่วหน้า หน้าใสขึ้น ทำให้ฝ้าเด่นขึ้นมา เราเลยแนะนำให้ทาตรงฝ้าก่อน ถ้าฝ้าสีน้ำตาลจะหายไว 1-2 เดือน แต่ฝ้าลึกสีเขียวออกดำใช้เวลาหน่อย 3-4 เดือน

กรณีสิวมาก : กลไกการรักษาสิวของซีรั่มวิตามิน B3 เหมือน Retin A, Differin, Benzac, BHA, AHA จะเคลียร์ comedones ใต้ผิว (Comedolytic) ทำให้บางคนเกิดอาการสิวเห่อขึ้นมา ถ้าเป็นสิวเยอะ ให้เอาแต้มก่อน แต้มหนาๆ บ่อยๆ ตรงสิว โดยเฉพาะก่อนนอน ปกติสิวจะยุบภายใน 1-3 วัน ถ้าสิวยังไม่ค่อยยุบให้ช่วยเปิดหัวสิวให้ serum ใช้เข็ม(เช็ด alcohol แล้ว) สะกิดเบาๆ เปิดหัวสิว ถ้ามีหนองของเสียอยู่ข้างใน ใช้ cottonbud กดซับเอาหนอง หัวสิวออกให้หมด อย่าให้หนองลามไปที่อื่น แล้วเอาซีรั่มแต้ม รับรองยุบไวค่ะ

พอสิวเริ่มบรรเทาให้เริ่มทาทั่วหน้า บางๆ วันละ 1 ครั้ง ตอนกลางคืน และ แต้มสิวไปเรื่อยๆ

ถ้าสิวไม่ขึ้นอีก (แสดงว่าหน้าไม่ค่อยมี comedones แล้ว) ให้เริ่มใช้วันละ 2 ครั้งได้ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นขั้นตอนบำรุงผิวหน้าแล้วค่ะ

ใช้รักษาสิวส่วนใหญ่ภายใน 1 เดือน จะหาย ถ้ามี comedones มาก (สิวเรื้อรัง) ต้องใช้เวลา 2-3 เดือน หน้าจะใสเกลี้ยง

ทำไมซีรั่มที่ซื้อมาครั้งนี้ ข้นขึ้น และสีเข้มขึ้น?

ไม่ต้องกังวล ซีรั่มยังดีอยู่ไม่เสีย คุณภาพต่อผิวยังเหมือนเดิมทุกประการ เพราะซีรั่มมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติปริมาณเข้มข้น ถ้าทิ้งไว้ 2-3 เดือน หลังจากวันที่ผลิต ซีรั่มจะข้นขึ้น และสีจะเข้มขึ้นมาหน่อย มีกลิ่นน้ำผึ้งขึ้น หลังจากนั้นจะคงที่ (เหมือนสมุนไพรที่บ่มไว้ สีจะเข้มขึ้น กลิ่นจะนวลขึ้น) สารออกฤทธิ์ต่างๆ รวมทั้งวิตามิน B3 ในซีรั่มก็ยังทนต่อความร้อนได้ดี รับประกันตลอดอายุการใช้งาน